Walter-CD

สื่อกลางงประชาสัมพันธ์และความรู้

SEO กับ SEM ความแตกต่าง

SEO กับ SEM ความแตกต่างและวิธีใช้ร่วมกันเพื่อประสิทธิภาพที่ดีที่สุด

คุณเคยสงสัยไหมว่าเวลาที่เราค้นหาข้อมูลบน Google ทำไมบางเว็บไซต์ถึงขึ้นมาเป็นอันดับแรกเสมอ นั่นคือผลลัพธ์จากการทำ SEO และ SEM ซึ่งเป็นเครื่องมือสำคัญที่ช่วยให้เว็บไซต์ของธุรกิจต่าง ๆ สามารถดึงดูดความสนใจจากผู้ใช้ได้อย่างมีประสิทธิภาพ แต่ทั้งสองอย่างนี้ต่างกันอย่างไร และควรใช้ร่วมกันอย่างไรถึงจะได้ผลลัพธ์ที่ดีที่สุด วันนี้เราจะมาคุยกันอย่างละเอียดและเข้าใจง่าย ๆ

ทำความรู้จักกับ SEO และ SEM

  • SEO (Search Engine Optimization) ถ้าเปรียบเทียบง่าย ๆ SEO ก็เหมือนกับการจัดร้านให้ดูดีและน่าสนใจ เพื่อดึงดูดลูกค้าให้เดินเข้ามาในร้าน โดยไม่ต้องเสียเงินโฆษณา การทำ SEO ก็คือ การปรับปรุงเว็บไซต์ให้เป็นไปตามหลักเกณฑ์ของ Google เช่น การมีเนื้อหาที่ดี การโหลดหน้าเว็บที่รวดเร็ว และการใช้คำค้นหาที่เหมาะสม เมื่อทุกอย่างถูกจัดให้ลงตัว Google ก็จะดันเว็บไซต์ของคุณขึ้นมาติดอันดับแรก ๆ เอง โดยที่คุณไม่ต้องจ่ายเงินสักบาท
  • SEM (Search Engine Marketing) SEM คือการลงทุนซื้อโฆษณาบน Google เพื่อให้เว็บไซต์ของคุณขึ้นมาติดอันดับแรก ๆ อย่างรวดเร็ว แม้ว่าจะไม่ใช่การปรับแต่งเว็บไซต์ตามธรรมชาติ แต่ก็เป็นวิธีที่มีประสิทธิภาพในการสร้างยอดขายในเวลาที่รวดเร็ว SEM เหมือนกับการซื้อพื้นที่โฆษณาในทำเลทองที่คนเดินผ่านไปมามากมาย แต่ก็ต้องแลกกับการจ่ายเงินให้กับ Google ตามจำนวนคลิกที่ได้รับ นั้นก็คือการทำ Google Ads ที่จะช่วยให้คุณเข้าถึงลูกค้าได้มากขึ้น
ทำความรู้จักกับ SEO และ SEM

SEO และ SEM ต่างกันอย่างไร

SEO และ SEM เป็นวิธีที่ใช้เพื่อให้เว็บไซต์ของคุณปรากฏบน Google ทั้งสองวิธีมีความแตกต่างกันชัดเจน

  • SEO ทำให้เว็บไซต์ติดอันดับด้วยการปรับปรุงคุณภาพเว็บไซต์ โดยไม่มีค่าใช้จ่าย แต่ต้องใช้เวลาและความพยายามในการทำให้เว็บไซต์ได้รับความน่าเชื่อถือจาก Google
  • SEM ทำให้เว็บไซต์ติดอันดับด้วยการจ่ายเงินซื้อโฆษณา ผลลัพธ์เร็ว แต่มีค่าใช้จ่ายตามจำนวนคลิก

ทำไมถึงควรใช้ SEO และ SEM ร่วมกัน

หลายคนอาจคิดว่าควรเลือกใช้วิธีใดวิธีหนึ่ง แต่ความจริงคือ SEO และ SEM สามารถทำงานร่วมกันได้อย่างมีประสิทธิภาพมากกว่า ตัวอย่างเช่น

  1. ใช้ข้อมูลจาก SEM มาปรับปรุง SEO เวลาเราทำโฆษณาผ่าน SEM เราสามารถเก็บข้อมูลคำค้นหาที่ผู้ใช้สนใจมากที่สุด และนำข้อมูลเหล่านั้นมาใช้ในการปรับปรุง SEO เพื่อเพิ่มโอกาสให้เว็บไซต์ติดอันดับสูงขึ้นในผลการค้นหาแบบธรรมชาติ
  2. ใช้ข้อมูลจาก SEO มาช่วย SEM ในทางกลับกัน คำค้นหาที่ได้รับความนิยมจากการทำ SEO ก็สามารถนำมาปรับใช้ใน SEM เพื่อเพิ่มโอกาสในการคลิกและยอดขายได้อีกด้วย
  3. ทดสอบหน้าเว็บด้วย SEM ก่อนปรับใช้ใน SEO SEM ยังช่วยให้เราสามารถทดสอบหน้าเว็บต่าง ๆ ได้อย่างรวดเร็ว หากหน้าหนึ่งได้รับการตอบรับที่ดี เราสามารถนำมาปรับใช้ใน SEO เพื่อเพิ่มประสิทธิภาพให้มากขึ้น
  4. เพิ่มการแสดงผลบนหน้าค้นหา การทำ SEO และ SEM ในคำค้นหาเดียวกัน ช่วยเพิ่มโอกาสให้เว็บไซต์ของคุณแสดงผลบนหน้าค้นหามากขึ้น สร้างความน่าเชื่อถือและการรับรู้ให้กับแบรนด์
ทำไมถึงควรใช้ SEO และ SEM ร่วมกัน

สรุป ใช้ SEO และ SEM ร่วมกันเพื่อประสิทธิภาพสูงสุด

การแข่งขันบนโลกออนไลน์สูง การเลือกใช้ทั้ง SEO และ SEM ร่วมกันถือเป็นกลยุทธ์ที่ดีที่สุด เพื่อให้เว็บไซต์ของคุณสามารถปรากฏบนหน้าค้นหาของ Google ได้อย่างมีประสิทธิภาพ ทั้งการสร้างยอดขายในระยะสั้นด้วย SEM และการสร้างฐานลูกค้าในระยะยาวด้วย SEO ซึ่งเราอาจจะเริ่มต้นในการทำ SEO เองในเว็บไซต์ของคุณ

สรุปเกี่ยวกับการจ้างผู้ให้บริการรับทำ SEO

จ้างผู้ให้บริการ รับทำ SEO เป็นกลยุทธ์ที่สำคัญสำหรับธุรกิจที่ต้องการเพิ่มการเข้าถึงและยอดขายในโลกออนไลน์อย่างมีประสิทธิภาพ ผู้ให้บริการเหล่านี้มีความเชี่ยวชาญในการปรับปรุงเว็บไซต์ให้เหมาะสมกับหลักเกณฑ์ของเครื่องมือค้นหา เช่น Google ซึ่งช่วยให้เว็บไซต์ของคุณปรากฏในอันดับต้นๆ ของผลลัพธ์การค้นหา การปรากฏในอันดับที่สูงเป็นสิ่งสำคัญอย่างยิ่งในการดึงดูดผู้เข้าชมและสร้างความเชื่อมั่นให้กับลูกค้า

คำถามที่พบบ่อยเกี่ยวกับ SEO และ SEM