Walter-CD

สื่อกลางงประชาสัมพันธ์และความรู้

โยโย่ ของเล่นหมุนวนที่เก่าแก่กว่าที่คิด เรื่องจริงที่หลายคนไม่เคยรู้

ถ้าพูดถึงของเล่นที่ใช้ได้ทั้งสนุก เพลิน และฝึกสมาธิในเวลาเดียวกัน “โยโย่” คงเป็นหนึ่งในตัวเลือกที่หลายคนนึกถึง แม้จะดูเรียบง่าย แต่รู้หรือไม่ว่าโยโย่มีประวัติศาสตร์ยาวนานเกินกว่าพันปี และไม่ใช่แค่ของเล่นในสนามเด็กเล่นเท่านั้น ของเล่นหมุนกลับด้วยแรงโน้มถ่วงชิ้นนี้ เคยเป็นมากกว่าความบันเทิง — เคยถูกใช้ในสนามรบ เคยเป็นเครื่องแสดงฐานะในราชสำนัก และยังพัฒนาตัวเองมาตลอดจนกลายเป็นกีฬาแข่งขันระดับโลกในยุคปัจจุบัน บทความนี้จะพาคุณย้อนรอยต้นกำเนิดของโยโย่ ว่ามาจากที่ใด ใครคือผู้คิดค้น และโยโย่กลายเป็นของเล่นคลาสสิกที่อยู่ในใจคนทั่วโลกได้อย่างไร

หลายคนเข้าใจผิดว่าโยโย่เป็นของเล่นจากเอเชียตะวันออก เช่น ญี่ปุ่นหรือจีน แต่ความจริงแล้วหลักฐานที่เก่าแก่ที่สุดของโยโย่ปรากฏในประเทศกรีซโบราณ โดยมีภาพวาดและเครื่องปั้นดินเผาจากราว 500 ปีก่อนคริสตกาล ที่แสดงให้เห็นเด็กเล่นวัตถุทรงกลมติดเชือก ชิ้นส่วนโยโย่ที่พบในยุคนั้นทำจากวัสดุธรรมชาติเช่นดินเผา ไม้ หรือโลหะ และถูกใช้เพื่อฝึกทักษะและความแม่นยำมากกว่าจะใช้เพียงความสนุกสนาน ต่อมามีหลักฐานว่าโยโย่เคยถูกใช้เป็น “อาวุธ” โดยนักรบในฟิลิปปินส์สมัยโบราณ ใช้ลักษณะคล้ายโยโย่เหวี่ยงโจมตีจากระยะไกล ซึ่งอาจเป็นจุดเริ่มต้นของแนวคิดในการควบคุมวัตถุผ่านเชือก

การเข้าสู่ยุคของเล่นจริงจัง เริ่มต้นในยุโรปช่วงศตวรรษที่ 18

ช่วงปลายยุคศตวรรษที่ 18 โยโย่เริ่มแพร่หลายในยุโรปโดยเฉพาะฝรั่งเศส ในชื่อว่า “bandalore” หรือ “emigrette” โดยผู้ดีชั้นสูงมักใช้เพื่อความบันเทิงในสังคมชั้นสูง และยังถือเป็นสัญลักษณ์ของความสงบจิตสงบใจอีกด้วย ในอังกฤษ โยโย่เริ่มถูกเรียกว่า Yo-Yo อย่างเป็นทางการในช่วงปี 1800s และเริ่มได้รับความนิยมมากขึ้นเรื่อยๆ โดยเฉพาะในกลุ่มเด็กและเยาวชน

จากฟิลิปปินส์สู่สหรัฐอเมริกา จุดเปลี่ยนที่ทำให้โยโย่โด่งดังทั่วโลก

ต้นศตวรรษที่ 20 ชายชาวฟิลิปปินส์ชื่อ Pedro Flores ได้นำโยโย่แบบดั้งเดิมเข้าสู่สหรัฐอเมริกา และเริ่มผลิตเชิงพาณิชย์ในปี 1928 ภายใต้ชื่อว่า “Flores Yo-Yo Company” ไอเดียของ Flores คือเปลี่ยนโยโย่จากของเล่นแบบ “หมุนแล้วกลับอัตโนมัติ” เป็นแบบที่สามารถ หมุนอยู่กับที่ (sleeping) ทำให้สามารถเล่นท่าต่างๆ ได้มากขึ้น ต่อมา บริษัทของเขาถูกซื้อกิจการโดย Donald F. Duncan เจ้าพ่อการตลาดชาวอเมริกัน ผู้ผลักดันให้โยโย่กลายเป็นของเล่นที่ดังไปทั่วอเมริกา ด้วยการจัดแข่งขัน ทัวร์โชว์ และใช้เทคนิคการตลาดเต็มรูปแบบ นับแต่นั้นเป็นต้นมา คำว่า “Yo-Yo” จึงกลายเป็นชื่อสามัญของของเล่นชนิดนี้ และได้รับความนิยมต่อเนื่องทั่วโลกจนถึงปัจจุบัน

โยโย่ไม่ใช่แค่ของเล่นเด็กอีกต่อไป

ในยุคปัจจุบัน โยโย่ไม่ได้จำกัดอยู่แค่ในมือเด็กเท่านั้น แต่ได้กลายเป็น “กีฬา” ที่มีการแข่งขันระดับโลก มีทั้งการเล่นเดี่ยว เล่นคู่ เล่นโชว์ เล่นแบบความเร็ว หรือแนวศิลปะประยุกต์ เทคโนโลยีในการผลิตก็พัฒนาไปมาก มีการใช้วัสดุอลูมิเนียม เบรกซิสเต็มลูกปืน การบาลานซ์น้ำหนัก และมีการออกแบบให้เหมาะกับสไตล์การเล่นต่างๆ เช่น Looping, String Trick, Offstring หรือ Counterweight นอกจากนี้ยังมีการจัดการแข่งขัน World Yo-Yo Contest ซึ่งเป็นเวทีรวมตัวของนักเล่นโยโย่มืออาชีพจากทั่วโลก

โยโย่ไม่ใช่แค่ของเล่นทั่วไปที่หมุนไปมาอย่างไร้เป้าหมาย แต่มันมีประวัติศาสตร์ยาวนานกว่า 2,000 ปี ผ่านการเปลี่ยนบทบาทจากอาวุธ สู่ของเล่น สู่กีฬา และสู่เวทีการแข่งขันระดับนานาชาติ จากชิ้นส่วนดินเผาในกรีซโบราณ สู่นวัตกรรมในมือของนักพัฒนายุคใหม่ โยโย่ยังคงรักษาเสน่ห์ของความเรียบง่ายแต่ซับซ้อน และยังคงเป็นของเล่นที่ไม่เคยหลุดเทรนด์แม้เวลาจะผ่านไปแค่ไหน