รอยดำจากสิว เป็นปัญหาที่พบได้บ่อยมาก หลังจากสิวหายไป ส่งผลต่อความมั่นใจในการใช้ชีวิตประจำวันไม่น้อย ไม่ว่าจะเป็นทั้งผู้ชายและผู้หญิง รอยดำจากสิว เกิดจากการที่ร่างกายผลิตเม็ดสีเมลานินมากเกินไป บริเวณที่เคยเกิดการอักเสบจากสิว ทำให้ผิวบริเวณนั้นมีสีเข้มขึ้น บทความนี้จึงจะมารวบรวมสาเหตุรอยดำจากสิว วิธีการรักษา รวมถึงรักษารอยดำด้วยการเลเซอร์หรือทายา แบบไหนดีกว่ากัน?
สาเหตุของรอยดำจากสิว
รอยดำจากสิว เกิดจากการอักเสบของสิวโดยตรง ที่มีการสร้างเม็ดสีเมลานินมากเกินไป จนเกิดเป็นรอยคล้ำบนผิวหนัง ซึ่งสาเหตุหลักๆ ดังนี้
- การแกะ เกา บีบสิว หรือสิวอักเสบที่รุนแรง จะทำให้เกิดการอักเสบเรื้อรัง กระตุ้นให้ร่างกายผลิตเม็ดสีเมลานินมากขึ้น
- การติดเชื้อแบคทีเรียที่เกิดจากสิวอักเสบ ทำให้เกิดการอักเสบรุนแรงและเพิ่มโอกาสในการเกิดรอยดำ
- การอุดตันของรูขุมขน ทำให้เกิดสิวอุดตัน และเมื่อสิวอักเสบก็จะเกิดรอยดำตามมา
- ผู้ที่มีกรรมพันธุ์ผิวคล้ำ หรือมีแนวโน้มที่จะเกิดรอยดำง่าย ก็จะมีโอกาสเกิดรอยดำจากสิวได้ง่ายกว่าคนอื่นๆ
การรักษารอยดำจากสิวด้วยยาทา
เหมาะกับรอยดำตื้น รอยดำไม่มากหรือมีรอยดำเพียงเล็กน้อย โดยเลือกยาที่มีส่วนผสม Hydroquinone, Kojic Acid, Arbutin, Niacinamide หรือ Tranexamic acid ข้อดีของการรักษารอยดำด้วยยาทา คือราคาถูกกว่า สะดวก ทายาเองได้ที่บ้าน แต่ต้องใช้เวลานานกว่าเห็นผล ซึ่งรอยดำอาจจางลงเรื่อย ๆ และต้องทายาต่อเนื่อง ป้องกันรอยดำกลับมา
การรักษารอยดำจากสิวด้วยการเลเซอร์
เหมาะกับรอยดำลึก รอยดำจำนวนมาก ที่ไม่สามารถรักษาเองได้จนหายขาด โดยแพทย์ที่มีความรู้ จะแนะนำเครื่องเลเซอร์ และวางแผนวิธีการรักษารอยดำที่เหมาะสมกับสภาพผิวและความลึกของรอยดำ เช่น Picosecond, IPL, Spectra Gold หรือ MIIN Laser ข้อดีหลักๆ ของการเลเซอร์ คือเห็นผลลัพธ์ชัดเจน รวดเร็ว ทำให้ผิวกลับมาหน้าเนียนใสขึ้นได้ทันที ทั้งนี้อาจต้องทำหลายครั้ง ขึ้นอยู่กับความรุนแรงของรอย และต้องดูแลผิวหลังเลเซอร์อย่างเคร่งครัด ตามคำแนะนำของแพทย์โดยเฉพาะ นับว่าการเลเซอร์ เป็นวิธีการรักษารอยดำจากสิวได้ดีที่สุด
เลเซอร์หรือทายา แบบไหนดีกว่ากัน?
สำหรับการเลเซอร์รอยดำ เหมาะสำหรับรอยดำที่ลึกและฝังแน่น หากรักษาด้วยการเลเซอร์ จะเห็นผลเร็วหน้าเนียนใสมากขึ้น
สำหรับการทายา เหมาะสำหรับรอยดำที่ตื้น และผู้ที่มีรอยดำเพียงเล็กน้อย อาจใช้เวลานานกว่าจะเห็นผล แต่ราคาถูกกว่า และมีผลข้างเคียงน้อยกว่า
เลือกวิธีการรักษาอย่างไรดี
- ควรทราบสาเหตุที่แน่ชัดของรอยดำ เพื่อเลือกวิธีการรักษาที่เหมาะสมกับสภาพผิว
- ความรุนแรงของรอยดำที่ลึกและเข้ม อาจต้องใช้เลเซอร์ในการรักษา
- ผู้ที่มีผิวบอบบาง อาจไม่เหมาะกับการเลเซอร์
- การรักษาด้วยเลเซอร์ มีค่าใช้จ่ายที่ค่อนข้างสูงกว่าการใช้ยาทา
- การรักษาด้วยเลเซอร์ให้ผลลัพธ์เร็วกว่าการใช้ยาทาที่ใช้เวลาค่อนข้างนาน
Phuket Skin Center คลินิกเวชกรรม ภูเก็ต
Phuket Skin Center คลินิกเวชกรรมดูแลผิวพรรณ รักษารอยดำ ภูเก็ต โดย นพ.เกียรติทวี ฐานะสวัสดิ์ ที่มีประสบการณ์ดูแลผิวพรรณและความงามมาอย่างต่อเนื่องมามากกว่า 20 ปี มั่นใจในมาตรฐาน ด้วยเทคโนโลยีการเลเซอร์แบบใหม่ที่ทันสมัย ให้การรักษาอย่างจริงใจ ไม่เลี้ยงไข้ มีใบอนุญาตสถานพยาบาลเอกชนที่เชื่อถือได้
คุณหมอพร้อมแนะนำโปรแกรมการรักษารอยดำที่ตรงจุด มีทีมแพทย์คอยดูแลอย่างใกล้ชิดตลอดการรักษา ภูเก็ตสกินเซ็นเตอร์ ตั้งอยู่ที่ ถนนเยาวราช ตำบลตลาดใหญ่ อำเภอเมืองภูเก็ต จังหวัดภูเก็ต ซึ่งสามารถเดินทางไปยังคลินิกได้อย่างสะดวกสบาย ขอคำปรึกษาก่อนเข้ารับบริการได้ฟรี ไม่มีค่าใช้จ่าย
สามารถดูข้อมูลเพิ่มเติมได้ที่ www.phuketskincenter.com
คำแนะนำเพิ่มเติม
- ควรปรึกษาแพทย์ผิวหนัง เพื่อรับคำแนะนำในการรักษาที่ถูกต้องและปลอดภัย
- ทาครีมกันแดดเป็นประจำ ดื่มน้ำมากๆ และหลีกเลี่ยงการสัมผัสสารเคมีโดยตรง
- การรักษารอยดำต้องใช้เวลา อาจต้องใช้เวลาหลายสัปดาห์หรือหลายเดือนจึงจะเห็นผล
- หลีกเลี่ยงการแกะเกา เพื่อลดการเกิดรอยดำที่เข้มขึ้น จนกลายเป็นรอยแผลเป็นได้
อย่างไรก็ตาม การรักษารอยดำจากสิว ต้องอาศัยความรู้และประสบการณ์ของแพทย์ผิวหนังเฉพาะด้าน ดังนั้น การเลือกวิธีการรักษาที่เหมาะสมกับสภาพผิวและรอยดำ จะช่วยให้ได้ผลลัพธ์ที่เห็นผลดีและปลอดภัยได้ รวมถึงเลือกคลินิกรักษารอยดำที่ได้มาตรฐาน น่าเชื่อถือ และได้รับความไว้วางใจจากลูกค้าที่เข้ารับบริการด้วย